ประกาศกรมศุลกากรที่ 35/2563

เรื่อง แก้ไขเพิ่มเติมประกาศกรมศุลกากร ที่ 174/2560

---------------------------------------------------------------------------------------------------
 

         เพื่อให้การปฏิบัติพิธีการศุลกากรเกี่ยวกับการตรวจปล่อยสินค้าที่นำเข้าในลักษณะเทกอง(Bulk Cargo)โดยวิธีวัดระดับเรือ(Draft Survey) มีความทันสมัย สอดคล้องกับการขนส่งระหว่างประเทศปฏิบัติพิธีการศุลกากรด้วยความสะดวกรัดกุมเหมาะสม และเพื่อให้การปฏิบัติหน้าที่ของพนักงานศุลกากรเป็นไปโดยถูกต้อง ชอบด้วยกฏหมาย อาศัยอำนวจตามความในมาตรา 51 มาตรา 158 และมาตรา159 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2560 อธิบดีกรมศุลกากรออกประกาศไว้ ดังต่อไปนี้

ข้อ 1. ให้ยกเลิกความในข้อ 9 แห่งประกาศกรมศุลกากรที่ 174/2560 เรื่อง หลักเกณฑ์วิธีการ และเงื่อนไขการตรวจของที่กำลังผ่านพิธีการหรืออยู่ในอำนาจกำกับตรวจตราของศุลกากร ลงวันที่ 27 พฤศจิกายน 2560 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน

“ข้อ 9 การตรวจปล่อยสินค้าที่นำเข้าในลักษณะเทกอง(Bulk Cargo) ซึ่งมิได้บรรจุภาชนะอย่างใดๆ เช่น ถ่านหิน ปูนซีเมนต์เม็ด ปูนซีเมนต์ผง สินแร่ ตะกรันโลหะ ปุ๋ย กากถั่วเหลือง เป็นต้น หากผ็นำของเข้ามีความประสงค์จะตรวจปล่อยโดยวิธีวัดระดับเรือ(Draft Survey) ให้ปฏิบัติดังต่อไปนี้

          (1) หลักการ การตรวจปล่อยสินค้านำเข้าในลักษณะเทกอง(Bulk Cargo)

โดยวิธีวัดระดับเรือ(Draft Survey) บรรทุกเรือที่มีระบบการจัดเก็บแยกกันแต่ละระวางอย่างชัดเจน ไม่มีสินค้าอื่นบรรทุกปะปนมาในระวางเดียวกัน สามารถวัดระดับ(Draft Survey) เพื่อทำการตรวจปล่อยสินค้าของผู้นำของเข้าแต่ละราย ดังนี้

             (1.1) สินค้าที่นำเข้าเป็นเป็นของผู้นำเข้ารายเดียว ตามใบตราสั่งฉบับเดียวบรรทุกสินค้าชนิดเดียวกัน ไม่มีสินค้าอื่นบรรทุกปะปนมาด้วย

               (1.2) สินค้าที่นำเข้าเป็นของผู้นำของเข้ารายเดียว ตามใบตราส่งหลายฉบับบรรทุกสินค้าชนิดเดียวกัน แต่คุณภาพและราคาแตกต่างกัน

                  (1.3) สินค้าที่นำเข้าเป็นผู้นำของเข้ามากกว่า 1 รายตามใบตราส่งหลายฉบับบรรทุกสินค้าโดยแยกระวางกันชัดเจน ไม่มีสินค้าปะปนกันในระวางเดียวกัน และสามารถวัดระดับเรือ(Draft Survey) แยกแต่ละระวางได้

                 (1.4) สินค้าที่นำเข้าเป็นผู้นำของเข้ามากกว่า 1 รายตามใบตราส่งหลายฉบับบรรทุกสินค้าชนิดและคุณภาพเดียวกัน

     (2.) พิธีการศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าในลักษณะเทกอง (Bulk Cargo)

               (2.1) ให้ผู้นำเข้าจัดทำใบขนสินค้าวางประกันด้านปริมาณเพิ่มเติมตามควรแก่กรณี ยื่นต่อท่าที่นำของเข้า ยกเว้นผู้นำของเข้าหรือตัวแทนออกของระดับมาตรฐานเออีโอเป็นผู้ปฏิบัติการนำเข้าไม่ต้องวางประกันด้านปริมาณของที่นำเข้า

               (2.2) ให้ผู้นำเข้าใช้เอกสารบัญชีราคาสินค้า(invoice) ให้ใช้(Proforma Invoice) หรือเอกสารทำนองเดียวกัน ปฏิบัติพิธีการใบขนสินค้าขาเข้าโดยใช้ข้อมูลในเอกสารนั้นเป็นราคาแสดงในใบขนสินค้า เมื่อผู้ประกอบการได้เอกสารแท้จริงในการซื้อขายให้ยื่นเอกสารต่อพนักงานศุลกากรภายใน 3 เดือนหลังจากการตรวจปล่อย เพื่อใช้ในการประกอบการคำนวนค่าภาษีอากร

        (3.) การตรวจปล่อยสินค้าที่นำเข้าในลักษณะเทกอง(Bulk Cargo) โดยวิธีวัดระดับเรือ(Draft Survey) การตรวจปล่อยให้ถือน้ำหนักของของที่นำเข้าตามตัวเลขสูงสุดจากการเปรียบเทียบระหว่างวิธีคำนวณจากการวัดระดับเรือ(Draft Survey) กับน้ำหนักที่แสดงในใบขนสินค้าและใบตราส่งเป็นเกณฑ์ในการคำนวณค่าภาษีอากร (ถ้ามี) หากตรวจพบปริมาณเกินจากที่แสดงในใบขนสินค้าและเงินประกันไม่คุ้มค่าภาษีอากรให้ผู้นำของเข้าชำระค่าภาษีอากรให้ครบถ้วน

        กรณีที่มีผู้นำของเข้ามากกว่า 1 ราย ให้ทำการตรวจปล่อยโดยวิธีวัดระดับเรือให้แล้วเสร็จที่ละรายผู้นำของเข้า

     กรณีผู้นำของเข้ารายเดียว บรรทุกสินค้าชนิดเดียวกัน แต่คุณภาพและราคาแตกต่างกันหากตรวจพบว่าสินค้ามีปริมาณเกินจากที่แสดงในใบขนสินค้าให้ใช่ราคาสินค้าที่สูงที่สุดมาคำนวณค่าภาษีอากรสินค้าส่วนที่เกิน

      (4.) การควบคุมการขนถ่ายสินค้าและตรวจปล่อยบางส่วน (Partly) ในแต่ละเรือลำเลียงหรือยานพาหนะบรรทุกที่บรรทุกเสร็จสิ้น ให้ผู้นำของเข้าชำระค่าธรรมเนียมสำหรับพนักงานไปประจำการก่อนหรือหลังเวลาราชการ คต่าธรรมเนียมประจำการนอกเขตที่ทำการศุลกากร หรือค่าธรรมเนียมอื่นตามที่กำหนดในกฏกระทรวง กำหนดค่าธรรมเนียมและค่ายกเว้นธรรมเนียมตามกฏหมายว่าด้วยศุลกากร

ประกาศนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 เป็นต้นไป

(แนบท้ายประกาศ)



ดาวโหลดประกาศเพิ่มเติมได้ที่นี่
https://www.ctat.or.th/admin/fileuploads/contents/2020-02-19T14-51-57_ประกาศกรมศุลกากร ที่ 35.2563.pdf